ลักษณะภูมิศาสตร์เมืองไทย ประเทศไทยมีพื้นที่ราว 513,115 ตารางกิโลเมตร มีขนาดใหญ่เป็นชั้นที่ 50 ของโลกและเป็นชั้นที่ 3 ในเอเซียอาคเนย์ รองจากประเทศอินโดนีเซีย (1,910,931 กิโล2) และประเทศพม่า (676,578 กิโล2) รวมทั้งมีขนาดใกล้เคียงกับประเทศสเปน (505,370 กิโล2) สูงที่สุด
ประเทศไทยมีลักษณะพื้นที่ที่มากมาย ภาคเหนือเป็นหลักที่แนวเขาสูงสลับซับซ้อน จุดที่สูงที่สุดในประเทศไทยเป็นเทือกเขาอินทนนท์ใน2,565 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แล้วก็ยังปกคลุมด้วยป่าดงอันเป็นต้นน้ำที่สำคัญของประเทศ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนมากเป็นหลักที่ของที่ราบสูงโคราช ภาวการณ์ของดินค่อนข้างจะแห้งและไม่ค่อยเอื้อต่อการเพาะปลูก แม่น้ำเจ้าพระยามีเหตุมาจากแม่น้ำปิงแล้วก็ยมที่ไหลมาบรรจบกันที่ปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ทำให้ภาคตรงกลางกลายเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดในประเทศ แล้วก็ถือได้ว่าเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลกภาคใต้เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของแหลมไทย-มาเลย์ ตามติดด้วยมหาสมุทรทั้งสองด้าน มีจุดที่แคบลงในคอคอดกระ แล้วขยายใหญ่เป็นแหลมมลายู ส่วนภาคตะวันตกเป็นซอกเขาและก็แนวทิวเขาซึ่งอิงตัวมาจากทางตะวันตกของภาคเหนือ
แม่น้ำเจ้าพระยาและจากนั้นก็แม่น้ำโขงถือได้ว่าเป็นแหล่งทำการกสิกรรมที่สำคัญของประเทศไทย การผลิตของภาคอุตสาหกรรมการกสิกรรมจำเป็นต้องอาศัยผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้จากแม่น้ำทั้งสองและสาขาทั้งหลาย อ่าวไทยมีพื้นที่ประมาณ320,000 ตารางกิโลเมตร รองรับน้ำซึ่งไหลมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำบางปะกง รวมทั้งแม่น้ำตาปี ถือได้ว่าเป็นแหล่งยั่วยวนใจนักทัศนาจร เนื่องจากว่าน้ำตื้นใสตามแนวริมฝั่งของภาคใต้แล้วก็คอคอดกระ ยิ่งกว่านั้น อ่าวไทยยังเป็นศูนย์กลางทางอุตสาหกรรมของประเทศ เพราะว่ามีท่าเรือหลักที่สัต***บ ถือว่าเป็นประตูที่จะทำให้มีการเกิดท่าเรืออื่นๆในจังหวัดกรุงเทพ ภาคใต้มีสถานที่เที่ยวซึ่งยั่วยวนใจนักทัศนาจรเยอะมาก นักเที่ยวมักเดินทางมาเลิศเสมอ ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ จังหวัดระนอง จังหวัดพังงาจังหวัดตรัง และหมู่เกาะตามแนวริมฝั่งของมหาสมุทรอันดามัน
ประเทศไทยแบ่งได้ 6 ภาค ซึ่งแต่ละภาคมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างดังนี้ ภาคเหนือ มีแนวเขาสูง โดยจุดสูงสุดเป็น เทือกเขาอินทนนท์ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวนไม่ใช่น้อยเป็นที่ราบสูงแห้ง ไม่เอื้อต่อการเพาะปลูก ภาคตรงกลาง เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยามีความอุดมสมบูรณ์ที่สุด ภาคใต้ ติดมหาสมุทรสองฝั่ง มีจุดแคบสุดที่คอคอดกระ ภาคทิศตะวันออก มีชายฝั่งทะเลเรียบขาวและก็โค้งเว้า
ภาคตะวันตก เป็นซอกเขารวมทั้งแนวทิวเขา
ทิศเหนือ ใกล้กับเมียนมาร์แล้วหลังจากนั้นก็ลาว
ทิศตะวันตก ชิดกับมหาสมุทรอันดามันและเมียนมาร์
ทิศตะวันออก ชิดกับลาวและก็เขมร
ทิศใต้ ใกล้กับอ่าวไทยแล้วก็มาเลเซีย
ลักษณะอากาศของไทยเป็นแบบเขตร้อน หรือแบบสะวันนา มีอุณหภูมิเฉลี่ย 18-34 °C และก็มีปริมาณฝนตกเฉลี่ยตลอดปีกว่า 1,500 มิลลิเมตร สามารถแบ่งได้ 3 ฤดู: ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงม.ย.เป็นฤดูร้อน ระหว่างพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมเป็นฤดูฝน ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากมหาสมุทรจีนใต้รวมทั้งพายุหมุนเขตร้อน ส่วนในพฤศจิกายนถึงกลางเดือนมี.ค.เป็นฤดูหนาว ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจากจีน ส่วนภาคใต้มีลักษณะของอากาศแบบป่าดงดิบ ซึ่งมีอากาศร้อนเฉอะแฉะตลอดทั้งปี ก็เลยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ฤดูเป็นฤดูฝนและจากนั้นก็ร้อน โดยฝั่งทิศตะวันออก ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันคุณยายน รวมทั้งริมตลิ่งตะวันตก ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน
อ้างอิง:
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย: https://www.lovethailand.org/travel/th/
ที่เที่ยวกรุงเทพ ที่เที่ยวกาญจบุรี ที่เที่ยวยะลา ที่เที่ยวปัตตานี ที่เที่ยวราธิวาส
ประเพณีไทย ประเพณีภาคเหนือ ประเพณีภาคกลาง ประเพณีภาคใต้
อาหารภาคเหนือ ประเทศไทย
|